‘เสี่ยโป้’ ปัดชวนคนเล่นพนัน ท้าคู่กรณี ตรวจหาสารเสพติด

“เสี่ยโป้ โป้อานนท์” ปัดชวนคนเล่นการพนัน อ้างไลฟ์สดเพราะกลัวบ่อนจ่ายเงินตุกติก ลั่น “ถ้าผมผิด จับผมได้เลย” เผยสาเหตุเปลี่ยนชื่อเพราะกลัวครอบครัวเดือดร้อน พร้อมท้าผู้หญิงคู่กรณีตรวจปัสสาวะ-เลือด มั่นใจม่วงแน่นอน…

วันที่ 10 ต.ค. 61 นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ กล่าวถึงประเด็นไลฟ์สดเล่นการพนันในรายการโหนกระแส ทางช่อง3 ว่า ตนเองได้เปลี่ยนชื่อจาก “อภิรักษ์ ชัชอานนท์” เป็น เสี่ยโป้ โป้อานนท์ ได้ประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว เพราะผู้หญิงคนหนึ่งชอบโพสต์ถึงตนในทางเสียหาย ส่งผลกระทบต่อครอบครัวที่ใช้นามสกุลเดียวกันเดือดร้อน จึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อ

เสี่ยโป้ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่มีการไลฟ์สดตอนเล่นการพนันที่เขมรนั้น เพราะกลัวว่าเล่นได้แล้วจะไม่ได้เงิน ไม่ได้เชิญชวนให้ใครมาเล่น แค่บอกว่า “ใครอยากมาก็มา” ตนไม่ได้ไปบังคับใคร และกฎหมายของที่เขมรก็เสรีเรื่องนี้ ไม่มีความผิด ส่วนตัวไม่รู้ว่า การที่ตนไปเล่นการพนันที่เขมรแล้วมีคนแชร์ไปในประเทศไทยจะผิดกฎหมาย ส่วนเรื่องที่มีเพจดังนำภาพของตนไปโจมตี อยากรู้ว่าทำไมต้องเป็นตน คนอื่นดังๆ ทำแบบนี้ก็มี ทำไมไม่ไปโจมตี “ถ้าผมทำผิดจริง จับผมได้เลย ผมไม่ใหญ่กว่ากฎหมายอยู่แล้ว”

ทั้งนี้ แอดมินเพจ Red skul Z ได้โฟนอินในรายการว่า การไลฟ์สดเล่นการพนันมันก็ผิดกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องศีลธรรม มีการโอนเงินเข้าไป เปิดยูสเซอร์ เล่นผ่านเว็บโดยมีคุณเป็นคนจัดการ ตนก็สงสัยว่าทำไมทำกันโจ่งแจ้งขนาดนี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาจัดการเลยเหรอ และต้องเข้าใจว่าเขามีคนติดตามกันเยอะมาก

ทั้งนี้ เสี่ยโป้ ได้ถามอีกฝ่ายกลับว่า คุณรู้ทุกขั้นตอนแล้วมาโจมตีตน เป็นเพราะเสียผลประโยชน์หรือเปล่า เพจแบบนี้ไม่เปิดหน้า ไม่พอใจใครก็เอาเฟซบุ๊กปลอมไปโจมตี แบบนี้ถูกศีลธรรมหรือเปล่า พอตนแจกเงินก็ไปว่าเขาเป็นขอทานออนไลน์ ไปว่าเขาไม่ได้

ทางแอดมินเพจ ตอบกลับว่า การแจกเงินแบบนี้เป็นการแจกเพื่อหวังผลประโยชน์ มีคนเดือดร้อน และตนก็ไม่เสียผลประโยชน์ ไม่ได้เปิดบ่อน สาเหตุที่ตนออกมาเปิดเผยก็เพราะมีคนส่งข้อมูลมาให้ และอยากให้ตำรวจเข้ามาดูแลเรื่องนี้ว่าผิดกฎหมายหรือไม่

ด้านแม่เสี่ยโป้ กล่าวว่า ลูกชายเล่นมาตั้งนานแล้ว หากลูกผิดจริงก็จะให้ลูกมอบตัว เพราะเราไม่รู้กฎหมายจริงๆ ยินดีให้ลูกชายตรวจปัสสาวะกับตรวจเลือดได้เลย

นอกจากนี้ เสี่ยโป้ ได้กล่าวถึงประเด็นที่มีผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่าตนติดยา รูปที่ออกไปนั้นเป็นรูปที่ผู้หญิงคนนี้ใช้ข่มขู่มาตั้งนานแล้ว ซึ่งตอนนี้ตนรู้สึกทนไม่ไหวจึงออกมาโพสต์เองดีกว่า และขอท้าผู้หญิงคนนี้ว่าให้มาออกรายการและไปตรวจสารแบบตน

ส่วนเรื่องเงินที่มีปัญหากัน หนี้ประมาณร้อยกว่าล้าน ตนได้ใช้ไปบางส่วนแล้วประมาณ 50-60 ล้าน แต่หนี้ไม่ลดเลย ยืนยันว่าตนพยายามไม่ติดต่อ และได้บล็อกเบอร์ไปแล้ว แต่ไม่ได้บล็อกข้อความ ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็ได้ส่งข้อความมาหลอกว่า ตั้งท้องลูกของเรา รวมไปถึงเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมาตนพยายามไม่ตอบโต้ แต่ที่ออกมาเพราะครอบครัวเดือดร้อน ไม่อยากให้ครอบครัวตกเป็นจำเลย.